วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

การเรียนว่ายน้ำสำหรับเด็กอายุ 4-8 เดือน/1

ต่อเนื่องจากการเรียนว่ายน้ำในอ่างอาบน้ำ ผู้ปกครองทั้งหลายคงเริ่มที่จะมั่นใจในการเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิวัติการอาบน้ำให้ลูกๆของท่านไม่มากก็น้อย ในวัย4-8 เดือนเด็กๆพร้อมแล้วที่จะเริ่มเรียนว่ายน้ำในสระว่ายน้ำอย่างเป็นทางการ ในช่วงอายุนี้วิวัฒนาการทางร่างกายและการเจริญเติบโตที่ให้ได้ชัด คือ การจำชื่อตัวเองได้ การหันไปหาเสียงที่คุ้นเคย การจับสิ่งของต่างๆ การนั่ง การคลานและการสื่อสารโดยออกลักษณะท่าทาง เป้าหมายของการฝึกว่ายน้ำของเด็กเล็กในวัยนี้ ก็คือ การผึกการกลั้นหายใจตามคำสั่ง การนำเด็กลงไปใต้น้ำ และ การดำน้ำด้วยความช่วยเหลือของผู้ใหญ่

มาเริ่มต้นด้วยขั้นพื้นฐานการอุ้มเด็กในน้ำโดยผู้ปกครองมีหน้าทีหลักๆอยู่สามอย่างที่ต้องทำคือให้เด็กรู้สึกถึงความปลอดภัย รู้สึกการปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายของตัวเค้ากับผู้ปกครองและสุดท้ายทำให้เค้ารู้สึกถึงการลอยตัวของร่างกายเค้าโดยมีน้ำโอบอุ้มและรองรับอยู่ (ดูตัวอย่างได้ในคลิปที่ผมแนบมาให้)

สำหรับขั้นตอนการกลั้นหายใจตามคำสั่งคงไม่กล่าวถึงมากเพราะมันก็คือการนำบทเรียนที่เราได้เคยฝึกในอ่างอาบน้ำลงมาปฏิบัติในสระว่ายน้ำนั่นก็คือการเอาน้ำรดส่วนหน้าของเด็กพร้อมกับคำสั่งที่ผู้ปกครองและเด็กๆคุ้นเคยและได้ใช้มาตลอด "เบบี้ (ชื่อของเด็ก) พร้อม" และปิดท้ายด้วยการกล่าวคำชมเล็กน้อย แนะนำว่าควรหาสระว่ายน้ำที่ได้มาตราฐานในเรื่องความสะอาดและอุณหภูมิของน้ำประมาณ 32 องศาเซลเซียสนอกเหนือไปจากนั้นผู้ปกครองควรที่จะใส่เสื้อลงน้ำเพื่อที่จะฝึกให้เด็กได้เกาะและจับ ซึ่งทักษะดังกล่าวจะมีความสำคัญมากในบทเรียนต่อๆไป

คราวหน้าเรามาต่อกันเรื่องการนำเด็กลงไปใต้น้ำครับ


ขอขอบคุณข้อมูลจาก worldwideswimschool





















วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2554

เรียนว่ายน้ำสำหรับเด็กอ่อน (0-4เดือน)

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสเข้าอบรมในคอร์ส Baby and Toddler ของ ASCTA ได้ความรู้ใหม่ๆมาพอสมควรครับ สำหรับวันนี้จะมาแชร์คร่าวๆเรื่องการปรับสภาพให้ทารกคุ้นเคยกับการลงน้ำและการสอนการกลั้นหายใจสำหรับเด็กอายุ 0-4 เดือน

 เพราะความจริงที่ว่าทารกเจริญเติบโตในถุงน้ำคร่ำในครรภ์ของแม่จึงทำให้เด็กแรกเกิดยังไม่รู้สึกถึงความกลัวน้ำอย่าพึ่งเข้าใจผมผิดว่าเราสามารถจะจับเด็กอ่อนลงสระน้ำได้ทันทีนะครับ เพราะการเรียนว่ายน้ำอย่างไม่เป็นทางการของเด็กๆวัยนี้ต้องเริ่มจากในอ่างอาบน้ำที่ซึ่งความสุขสนุกและการเรียนรู้ต่างๆกำลังจะเกิดขึ้น การเรียนรู้เหล่านี้จะถูกกลั่นกรองผ่านระบบประสาทต่างๆซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาทางร่างกาย อารมณ์และจิตใจของเด็กๆไปด้วย

เริ่มต้นจากการนำเด็กลงอ่างอาบน้ำในลักษณะนั่งพิงอยู่กับขอบอ่างก่อนแนะนำว่าอุณหภูมิของน้ำควรที่จะอุ่นแบบสบายๆที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียสหลังจากนั้นค่อยเอาแก้วน้ำค่อยๆรดย้ำว่าค่อยๆรดนะครับ ตรงส่วนต่างๆของร่างกายเช่นท้องแขนขาและอุ้งมือ การรดน้ำบนอุ้งมือของเด็กเป็นการฝึกปฏิกริยาที่ค่อนข้างสำคัญเพราะสุดท้ายแล้วปฏิกริยานี้จะมีประโยชน์ต่อบทเรียนที่จะมีขึ้นจริงในสระว่ายน้ำแล้วผมจะมานำเสนอประโยชน์ของมันในวาระต่อๆไป

พอเด็กๆเริ่มคุ้นเคยกับการอยู่ในน้ำแล้วทีนี้ก็จะมาถึงการฝึกกลั้นหายใจล่ะครับ การฝึกการกลั้นหายใจนั้นต้องมาพร้อมกับคำสั่งเดิมทุกครั้ง เช่น "เบบี้(ชื่อของเด็กๆ) พร้อม"และจบลงด้วยการรดน้ำ ด้วยวิธีนี้เด็กๆจะสามารถซึมซับวิธีกลั้นหายใจได้โดยอัตโนมัติผ่านการฟังคำสั่งเดิมๆ อาจจะเริ่มจากราดหลังหัวก่อนพอเด็กๆเคยชินก็เริ่มที่จะราดที่หน้า ข้อสำคัญของขั้นตอนนี้ขอย้ำอีกครั้งนะครับว่าต้องใช้คำสั่งเดิมเพื่อเค้าจะได้ใช้เป็นสัญญาณให้ตัวเค้าเองเตรียมตัวที่จะกลั้นหายใจและอย่าลืมที่จะให้คำชมเค้าน่ะครับหลังจากที่เค้าได้ทำในสิ่งที่เราต้องการ

อีกข้อที่อยากจะฝากไว้คือเด็กอ่อนที่อยู่ในวัยระหว่าง10-12สัปดาห์จะมีปฏิกริยาที่เรียกว่า Babkin's Reflex กล่าวคือเมื่อใดก้อตามที่เราใช้นิ้วโป้งทั้งสองพยายามกดหรือจับที่ฝ่ามือของเค้าปากของเค้าจะเปิดออก
เพราะฉะนั้นเมื่อใดก้อตามที่หน้าเด็กๆอยู่ใกล้กับผิวน้ำพยายามหลีกเลี่ยงที่จะจับเค้าทางอุ้งมือแต่ให้จับเค้าโดยสอดมือไปข้างใต้รักแร้หรือหน้าอกจะเป็นการช่วยไม่ให้เค้าสำลักน้ำ

สุดท้ายนี้ขอให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ได้อ่านบทความของผมจงประสบความสำเร็จในการสอนลูกๆของท่านว่ายน้ำอย่างไม่เป็นทางการ สิ่งสำคัญคือต้องใจเย็นๆนะครับพยายามฝึกให้บ่อยที่สุดเท่าที่ทำได้ถือซะว่าสิ่งที่ผมได้แนะนำไปเป็นประสบการณ์ใหม่ของการอาบน้ำ สนุกกับมันครับและผมหวังว่าลูกๆของท่านจะสนุกไปด้วย

See You In Lane 3
ดุลยฤทธิ์ (โก้) พวงทอง



















วันพฤหัสบดีที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2554

Love Of The Sport

นับตั้งแต่วันที่ผมหัดเรียนว่ายน้ำเป็นวันแรกจวบจนถึงปัจจุบันก็เป็นเวลาเกือบสามสิบปีแล้วที่ผมได้มาคลุกคลีกับกีฬาว่ายน้ำไม่ว่าจะเป็นบทบาทนักกีฬาหรือครู อะไรที่ทำให้ผมอยู่ตรงจุดนี้ได้นานถึงเพียงนี้ คำตอบคงเป็นอื่นไม่ได้นอกจากความรักในกีฬาชนิดนี้เพราะเหตุนี้ผมจึงได้ก่อตั้งโปรเจ็คเล็กๆของผมโดยใช้ชื่อ SwimRight By Dulyarit โดยมีเป้าหมายหลักคือการปลูกฝังความรักที่มีต่อกีฬาว่ายน้ำแก่นักเรียน ผ่านทางบทเรียนและคลาสต่างๆของผมที่สนุกสนานแต่ยังคงซึ่งประสิทธิภาพเพราะสุดท้ายแล้วผมเชื่อว่าเมื่อเรารักที่จะทำอะไรซักอย่างเราก็จะมีแรงผลักดันที่จะทำสิ่งนั้นให้ประสบความสำเร็จได้โดยไม่มีข้อแม้

See You In Lane 3
ดุลยฤทธิ์ พวทอง

วันพุธที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2554

การหายใจในน้ำเบื้องต้น

ผ่านไปด้วยดีครับสำหรับคลาสว่ายน้ำขั้นพื้นฐานที่มีทั้งเด็กเล็กและผู้ใหญ่ให้ความสนใจมาสมัคร นักเรียนให้ความร่วมมือดีมากผมต้องขอชื่นชม แต่มีสิ่งหนึ่งที่นักเรียนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ของผมค่อนข้างที่จะมีปัญหาในการปฏิบัติก็คือการหายใจในน้ำ บ้างก็สูดน้ำเข้าจมูกเวลาหายใจกลับเข้าไป บ้างก็กินน้ำเข้าไปอึกใหญ่ วิธีแก้ไขปัญหาเหล่านี้ก็คือการที่ผมพยายามให้พวกเค้านึกถึงเวลาเราเป่าเทียนวันเกิด ตามสภาพความเป็นจริงแล้วเราคงไม่เป่าเค้กวันเกิดของเราโดยใช้จมูกเพราะฉะนั้นสำคัญมากครับกับการเป่าเค้กวันเกิดของเราในน้ำ(การหายใจในน้ำ)จงตัดการเป่าหรือสูดลมทางจมูกทิ้งไปก่อนครับและโปรดจำไว้ว่าเราอยากจะตั้งสมาธิที่ปากและปากอย่างเดียวทั้งตอนเป่าลมออกและสูดลมเข้าน่ะครับ การฝึกอาจจะเริ่มจากการวักน้ำขึ้นมาให้เค้าเป่าพอเค้าเชี่ยวชาญในส่วนนั้นแล้วลองให้เค้าทำในน้ำโดยเริ่มจากความลึกแค่น้ำปริ่มๆริมฝีกปากบนเพื่อกันน้ำเข้าจมูกและขั้นตอนสุดท้ายก็จะเป็นการดำลงไปใต้น้ำแล้วให้เค้าเป่าลม ที่สำคัญช่องไฟระหว่างการเป่าลมแต่ละทีควรจะเว้นให้พอดีอย่าให้นานเกินไปหรือสั้นเกินไปครับ นี่ก็คือวิธีการขั้นพื้นฐานในการหายใจในน้ำ สำหรับผู้ที่อยากฝึกให้ลูกหลานหรือคนที่ท่านรู้จักคุ้นเคยกับการหายใจในน้ำก็สามารถนำวิธีนี้ไปใช้ได้ครับเพราะมันเป็นวิธีที่ใกล้ตัวและเห็นภาพมากที่สุดตามความคิดของผม

See You In Lane 3
ดุลยฤทธิ์ พวงทอง

วันอังคารที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

มาเรียนว่ายน้ำกันครับ

"ข้อมูลในไทย พบว่าการจมน้ำเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1ในกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 15ปี มากกว่าอุบัติเหตุจราจร 2เท่าตัว และมากกว่าโรคไข้เลือดออก 24เท่าตัว ล่าสุดในปี 2553มีเด็กเสียชีวิตจากการจมน้ำรวม 1,138คน เฉพาะในเดือนเมษายนเพียงเดือนเดียว มีเด็กเสียชีวิตถึง 184คน เฉลี่ยวันละ 6คน โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีอัตราการเสียชีวิตสูงสุด รองลงมา คือภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ หากไม่เร่งแก้ไข คาดว่าใน พ.ศ. 2563หรืออีก 9ปีข้างหน้า ยอดการเสียชีวิตจากการจมน้ำจะพุ่งถึง 16,696คน"

นี่คือข้อมูลล่าสุดที่ออกมาเมื่อปี 2553 ค่อนข้างน่าตกใจมากครับที่ตัวเลขของเด็กที่จมน้ำจะพุ่งเลยตัวเลขการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจร ใครจะคิดล่ะครับว่าเมืองไทยของเราที่มีแม่น้ำคูคลองไหลผ่านทุกส่วนของประเทศจะมีอัตราการจมน้ำที่มากขนาดนี้ทั้งๆที่กิจวัตรประจำวันของพวกเด็กของเราก็วนเวียนอยู่กับการเล่นน้ำ จากการสำรวจยังค้นพบอีกว่าเพียงแค่ร้อยละ 16 ของเด็กไทยที่อายุต่ำกว่า 15ปีว่ายน้ำไม่เป็น กล่าวเป็นตัวเลขชัดๆก้อคือ มีเพียงแค่เด็ก 2 ล้านคนที่ว่ายน้ำเป็นในขณะที่ 11 ล้านคนว่ายน้ำไม่เป็น ผมไม่ทราบจริงๆครับว่าผู้ปกครองของเด็กไทยตระหนักถึงปัญหาตรงนี้หรือไม่ ถ้าเป็นไปได้ผมก็อยากใช้พื้นที่ตรงนี้เป็นกระบอกเสียงแก่ผู้ที่ได้เข้ามาชมบล็อกของผมให้หันมาสนใจกับภัยเงียบอันนี้และอย่างน้อยที่สุดที่ผมทำได้ก็คือทำงานที่ผมรักและทำได้ดีที่สุดต่อไปซึ่งก็ได้แก่การสอนว่ายน้ำโดยหวังว่าสักวันผมคงจะได้เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัวเลขที่ถูกพยากรณ์เอาไว้ในอีก 9ปีข้างหน้าลดลง

See You In Lane 3
ดุลยฤทธิ์ พวงทอง

ขอขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข

วันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

กีฬาว่ายน้ำคือของขวัญที่อยู่กับเราไปตลอดชีวิต

ผมฝากไว้นิดนึงว่ากีฬาว่ายน้ำเปรียบเสมือนของขวัญที่จะอยู่กับเราไปตลอดชีวิตเรามาให้รางวัลกับลูกๆและตัวคุณเองด้วยการเรียนว่ายน้ำอย่างถูกวิธีกับผม ดุลยฤทธิ์ พวงทองกันครับ
See You In Lane 3

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

Swim Lesson

Just a short introduction, my name is Dulyarit Phuangthong and Goh is my nickname here.
I used to compete for Thailand in every possible level eg Olympic Games, Asian Games, and Southeast Asian
Games. Right now, i'm planning to run some beginner's swim class, children age 6-8 preferably, and also open to teaching adult who is looking for fitness type of training. My class would be roughly an hour long with maximum 4 swimmers per group and it will be on Sat and Sun from 9-12am.

Any party who is interested pls feel free to drop me a line.

Thank You

See You In Lane 3